• Published Date: 14/06/2023
  • by: UNDP

แตกต่าง แต่ไม่ด้อยกว่าใคร: ก้าวข้ามข้อจำกัดผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ชีวิตของเยาวชนพิการ

คุณเคยฉุกคิดไหมว่าพวกเราทุกคนต่างมีความสามารถที่แตกต่างกัน

บางคนอาจจะวิ่งเร็ว บางคนร้องเพลงเพราะ หรือบางคนมีความคิดที่จะเปลี่ยนโลก แต่หากพูดถึงกลุ่มคนพิการ บางครั้งเราก็อาจหลงลืมกันไปว่าพวกเขาก็มีความสามารถที่ไม่ต่างไปจากคนไม่พิการ เราอาจจะไม่ตระหนักถึงความสามารถของเขาเพราะเราไม่เคยเข้าไปทำความเข้าใจอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่เราคุ้นเคย

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกลุ่มเยาวชนคนพิการว่าวิถีชีวิต และอุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญ ผ่านการตั้งวงสนทนาเยาวชนกับคนพิการและกลุ่มที่มีอัตลักษณ์หลากหลายอื่นๆ เพื่อจะทราบถึงปัญหาและวิธีการแก้ไขเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ได้รับสิทธิต่างๆเท่าเทียมกับคนอื่นๆได้

ความพิการเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมากทั่วโลก โดยเฉพาะเยาวชนไทย ความพิการไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความบกพร่องทางกายเท่านั้น ความบกพร่องทางจิตใจ อารมณ์ หรือสติปัญญาก็ถือเป็นความพิการด้วยเช่นกัน จากการสำรวจความพิการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มีเด็กประมาณ 140,000 คนในประเทศไทยที่มีความพิการ เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย กว่า 38% ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา 27% ไม่สามารถเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพ และ 4% ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งไม่ได้ลงทะเบียนกับรัฐบาลและไม่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้พิการรายเดือน

 

คนพิการในประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาส ความท้าทายเหล่านี้จะมีมากเป็นพิเศษในสังคมที่ให้ความสำคัญกับสมรรถภาพทางร่างกายสูงและมักมองข้ามความต้องการหรือความจำเป็นของคนพิการ 

ความท้าทายหนึ่งของคนพิการในประเทศไทยคือ การเลือกปฏิบัติและการตีตราทางสังคม แม้จะมีความพยายามในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความพิการ แต่คนพิการจำนวนมากยังต้องเจอกับอคติและการเลือกปฏิบัติทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการเข้าถึงการศึกษา การจ้างงาน และการดูแลสุขภาพ รวมถึงขาดตัวแทนจากภาครัฐและภาคประชาสังคม

 

ความท้าทายในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการฝึกอบรม 

จ๋า (นามสมมติ) ผู้พิการด้านการเคลื่อนไหวท่านหนึ่งในวงสนทนาได้แบ่งปันประสบการณ์ในวัยเรียนของเธอว่า เมื่อตอนเรียนมัธยม เธอได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ไม่มีลิฟต์ ทำให้การเดินทางไปเรียนในแต่ละคาบวิชานั้น มีความลำบากและเหนื่อยมาก โรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่มีลิฟต์หรือทางลาดสำหรับนักเรียนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือใช้วีลแชร์ ซึ่งจำกัดความสามารถในการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่โอกาสการจ้างงานที่จำกัดและศักยภาพในการหารายได้ที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของคนพิการ นอกจากนี้ ผู้พิการในประเทศไทยยังเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาล สถานพยาบาลหลายแห่งไม่มีความพร้อมในการจัดหาที่พักที่จำเป็นสำหรับคนพิการ ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการเข้าถึงการรักษาและการดูแล และนำไปสู่การส่งผลให้สุขภาพแย่ลงและมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำลง

นอกจากนี้เยาวชนพิการในประเทศไทยยังประสบความท้าทายในเรื่องการขาดเทคโนโลยีและอุปกรณ์ช่วยเหลือ เยาวชนพิการจำนวนมากต้องการเทคโนโลยีและอุปกรณ์เพื่อช่วยในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น รถเข็น เครื่องช่วยฟัง และอุปกรณ์สื่อสาร “จักร” (นามสมมติ) คนตาบอดท่านหนึ่งในวงสนทนาได้เล่าว่า อุปกรณ์เหล่านี้อาจมีราคาแพงและเข้าถึงได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบทหรือครอบครัวที่มีรายได้น้อย รายรับไม่พอสำหรับการซื้อสิ่งเหล่านี้ สิ่งนี้จะจํากัดความสามารถในการเข้าถึงการศึกษา การจ้างงานและโอกาสอื่น ๆ ของพวกเขาอย่างมาก

 

ความท้าทายที่ทำให้คนพิการไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคมต่างๆ

อีกหนึ่งความท้าทายของเยาวชนพิการไทยคือการขาดระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้ ถึงแม้จะมีแอพลิเคชันที่คิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยบรรเทาความยากลำบากในการใช้ขนส่งมวลชน เช่น Viabus แต่แอพลิเคชันดังกล่าวก็ไม่สามารถรองรับการใช้งานของคนพิการทางการเห็น รวมทั้งระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับคนพิการที่ใช้รถเข็น ซึ่งจำกัดความสามารถในการเดินทางและการเข้าถึงการศึกษา การจ้างงาน และบริการทางการแพทย์อย่างอิสระ นำไปสู่การพึ่งพาการคมนาคมของสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ดูแล ซึ่งจะนำไปสู่การจำกัดความเป็นอิสระและโอกาสทางสังคมของพวกเขาต่อไป ผู้ร่วมสนทนาหลายคนเล่าประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันของการที่สมาชิกในครอบครัวไม่สนับสนุนให้เดินทางคนเดียว เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัย

Image by rawpixel.com on Freepik

ในด้านการทำกิจกรรมยามว่างและสันทนาการ สืบเนื่องจากการที่เยาวชนคนพิการยังอาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งอาจจะจำกัดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากร และการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ออนไลน์และการเข้าสังคม เว็บไซต์และดิจิทัลแพลตฟอร์มจำนวนมากไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนพิการ เพิ่มการจำกัดความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ต่อไป จิน (นามสมมติ) คนตาบอดท่านหนึ่ง เล่าถึงการที่อยากเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เหมือนกับคนไม่พิการ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะแอพลิเคชันหรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบเพื่อให้ใช้งานร่วมกับโปรแกรมอ่านจอภาพ หรือ screen reader ได้ แม้จะดูเหมือนว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยที่คาดไม่ถึง แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เกิดการแบ่งแยกทางสังคม โอกาส และสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้รับ

 

ความท้าทายในการเข้าถึงบริการด้านกฎหมายและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร 

ประเด็นสุดท้ายที่ได้เรียนรู้จากเยาวชนพิการในวงสนทนานี้ เยาวชนพิการไทยอาจต้องเผชิญกับปัญหาในการเข้าถึงบริการด้านกฎหมายและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เยาวชนพิการจำนวนมากไม่ทราบถึงสิทธิของตนเองและการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้าถึงได้ ซึ่งอาจจะทำให้พวกเขาเข้าถึงบริการทางกฎหมายและรักษาสิทธิของตนเองได้ยาก นอกจากนี้ องค์กรที่สนับสนุนคนพิการจำนวนมากยังตั้งอยู่ในเขตเมือง ซึ่งอาจทำให้เยาวชนพิการที่มีรายได้ต่ำและอาศัยในชนบทเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้ยาก เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ภาครัฐที่เกี่ยวข้องและสังคมในวงกว้างต้องร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมสิทธิและความครอบคลุมของคนพิการ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการแก้ไขกฎหมายและนโยบายเพื่อให้เกิดการเข้าถึงและการคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติมากขึ้น รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมความเข้าใจในการยอมรับคนพิการมากขึ้น 

 

เสียงจากคนพิการที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราวของเขา ทำให้เราได้เห็นภาพชีวิตประจำวัน ความฝัน และความต้องการของพวกเขามากขึ้น ซึ่งความต้องการของพวกเขานั้นก็ไม่ต่างกับคนไม่พิการ คือต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีบรรยากาศที่เอื้อให้พวกเขาสามารถบรรลุความต้องการและความฝันได้ ซึ่งบริการและสวัสดิการต่างๆที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน อาจจะตอบโจทย์ประชากรบางกลุ่ม อย่างไรก็ตามหากเรามีความเข้าใจต่อบริบทเฉพาะของกลุ่มคนพิการที่หลากหลายจะสามารถทำให้เราออกแบบบริการและสวัสดิการที่เข้าถึงทุกคน รวมถึงคนพิการได้มากขึ้น

Keywords: , ,

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

Submit Project

There are many innovation platforms all over the world. What makes Thailand Social Innovation Platform unique is that we have created a Thai platform fully dedicated to the SDGs, where social innovators in Thailand can access a unique eco system of entrepreneurs, corporations, start-ups, universities, foundations, non-profits, investors, etc. This platform thus seeks to strengthen the social innovation ecosystem in Thailand in order to better be able to achieve the SDGs. Even though a lot of great work within the field of social innovation in Thailand is already happening, the area lacks a central organizing entity that can successfully engage and unify the disparate social innovation initiatives taking place in the country.

This innovation platform guides you through innovative projects in Thailand, which address the SDGs. It furthermore presents how these projects are addressing the SDGs.

Aside from mapping cutting-edge innovation in Thailand, this platform aims to help businesses, entrepreneurs, governments, students, universities, investors and others to connect with new partners, projects and markets to foster more partnerships for the SDGs and a greener and fairer world by 2030.

The ultimate goal of the platform is to create a space for people and businesses in Thailand with an interest in social innovation to visit on a regular basis whether they are looking for inspiration, new partnerships, ideas for school projects, or something else.

We are constantly on the lookout for more outstanding social innovation projects in Thailand. Please help us out and submit your own or your favorite solutions here

Read more

  • What are The Sustainable Development Goals?
  • UNDP and TSIP’s Principles Of Innovation
  • What are The Sustainable Development Goals?

Contact

United Nations Development Programme
12th Floor, United Nations Building
Rajdamnern Nok Avenue, Bangkok 10200, Thailand

Mail. info.thailand@undp.org
Tel. +66 (0)63 919 8779